รหัสวิชา/ชุดวิชา Course Code	HS412401
ภาษาไทย Thai name	การอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์
ภาษาอังกฤษ English name	ACADEMIC READING AND WRITING IN PUBLIC ADMINISTRATION
จํานวนหน่วยกิต Number(s) of Credits	3(3-0-6)

ประเภท Type	รายวิชาบังคับ (Compulsory Course)
ในหลักสูตร in the Program of	หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2565)
และ เป็นรายวิชา/ชุดวิชาในหลักสูตร and if also used in other academic programs, please specify the program and the subject type

อาจารย์ผู้รับผิดชอบ Course Coordinator	รองศาสตราจารย์พิธันดร นิตยสุทธิ์
อาจารย์ผู้สอน Lecturers	รองศาสตราจารย์พิธันดร นิตยสุทธิ์ อาจารย์อิมรอน โสะสัน

ความรู้ Knowledge	เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย
จริยธรรม Ethics
ทักษะ Skills	เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ
ลักษณะบุคคล Character	นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ

ภาษาไทย Thai	ลักษณะงานวิชาการ หลักการ วิธีอ่านและเขียนงานวิชาการ และรูปแบบของงานวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ หลักการและเทคนิคการนำเสนองานวิชาการ
ภาษาอังกฤษ English	Characteristics of academic works, principles and methods of reading and writing academic works and forms of public administration disciplines, principles and techniques of academic works presentation

รูปแบบ Delivery mode	Online learning Blended learning
รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Learning management Method	Task-based learning Experiential learning

สัปดาห์ที่ Week	หัวข้อการสอน Teaching topics	จํานวน ชั่วโมง Number of hours		CLO	กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อ/ เอกสารและช่องทางการสอน Teaching and Learning Activities, Instructional Media/ Materials, and Teaching Channels
		ทฤษฎี	ปฏิบัติ
1	1. ชี้แจงวิธีการเรียน การสอนและการประเมินผล 2. ความสำคัญของการอ่าน เขียน และการนำเสนอผลงานวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์	3		K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ C1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	1. พบนักศึกษาผ่านโปรแกรม Zoom เพื่อชี้แจงและแนะนำการเรียนการสอน และการส่งงาน ตลอดจนเกณฑ์การประเมินผล 2. อธิบายประมวลรายวิชา จุดประสงค์ของการเรียนรู้ และโลกทัศน์ที่ดีต่อการเรียนรู้ และสร้างสมประสบการณ์ในการอ่านและเขียนเชิงวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ KKU e-Learning ออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom หรือ Meet ในห้องเรียน e-Learning หนังสือ หรือ ตำรา บรรยาย เรื่อง
2-4	ความหมาย ประเภท และลักษณะงานเขียนทางวิชาการ	9		K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย C1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	KKU e-Learning ออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom หรือ Meet ในห้องเรียน e-Learning หนังสือ หรือ ตำรา บรรยาย เรื่อง
5-7	การอ่านงานเขียนเชิงวิชาการประเภทต่างๆ ทางรัฐประศาสนศาสตร์	9		K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ C1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	KKU e-Learning ออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom หรือ Meet ในห้องเรียน e-Learning หนังสือ หรือ ตำรา บรรยาย เรื่อง
8	สอบกลางภาค	3		K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ C1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	ในห้องเรียน KKU e-Learning
9-11	วิเคราะห์ และวิพากษ์งานเขียนเชิงวิชาการประเภทต่างๆ ทางรัฐประศาสนศาสตร์	9		K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ C1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	KKU e-Learning ออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom หรือ Meet ในห้องเรียน e-Learning หนังสือ หรือ ตำรา บรรยาย เรื่อง
12	หลักการเขียนรายงานเชิงวิชาการ	3		K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ C1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	KKU e-Learning ออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom หรือ Meet ในห้องเรียน e-Learning หนังสือ หรือ ตำรา บรรยาย เรื่อง
13-15	แบบฝึกหัดการเขียนเชิงวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์	9		K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ C1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	KKU e-Learning ออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom หรือ Meet ในห้องเรียน e-Learning หนังสือ หรือ ตำรา บรรยาย เรื่อง
รวมจำนวนชั่วโมง		45	0

วิธีการประเมิน Assessment Method	CLO	สัดส่วนคะแนน Score breakdown	หมายเหตุ Note
สอบกลางภาค	K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ A1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	30
สอบปลายภาค	K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ A1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	30
งานกลุ่ม	K1: เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักและวิธีการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการทาง รัฐประศาสนศาสตร์ ที่อยู่ในรูปแบบเอกสารทางวิชาการด้านตำรา บทความวิชาการ และรายงานการวิจัย S1: เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ที่นำไปสู่ทักษะในการอ่านและเขียนเอกสารวิชาการทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในรูปแบบต่าง ๆ A1: นักศึกษามีวินัย ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่องานเขียนทางวิชาการ	40
สัดส่วนคะแนนรวม		100

ประเภทตำรา Type	รายละเอียด Description	ประเภทผู้แต่ง Author	ไฟล์ File
หนังสือ หรือ ตำรา	ทิพย์สุเนตร อนัมบุตร. (2542). การอ่านเพื่อการวิเคราะห์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
หนังสือ หรือ ตำรา	นภาลัย สุวรรณธาดา และคณะ. (2553). การเขียนผลงานวิชาการและบทความ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
หนังสือ หรือ ตำรา	บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2536). การเขียนรายงาน การวิจัย และวิทยานิพนธ์. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ทำปกเจริญผล.
หนังสือ หรือ ตำรา	ปรีดา ช้างขวัญยืน (บรรณาธิการ). (2525). เทคนิคการเขียนและผลิตตำรา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
หนังสือ หรือ ตำรา	เปลื้อง ณ นคร. (2538). ศิลปะแห่งการอ่าน. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ข้าวฟ่าง.

การประเมินประสิทธิผลรายวิชาและการทวนสอบ Evaluation of course effectiveness and validation

ประเมินโดยนักศึกษาผ่านระบบประเมินออนไลน์ของมหาวิทยาลัย (The Course is evaluated online by students via the university's course evaluation system) ประเมินโดยการทวนสอบผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้โดยคณะกรรมการบริหารหลักสูตร (The Course learning outcomes are validated by the program committee.) ประเมินโดยสะท้อนผลการจัดการเรียนการสอนในช่วงของการเรียนแต่ละรายวิชา (Effectiveness of teaching and learning is evaluated periodically throughout the semester.)

การปรับปรุงการเรียนการสอนและประสิทธิผลของรายวิชา Improving Course instruction and effectiveness

นําผลการประเมินโดยนักศึกษา มาปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนการสอน (Improve and develop course instruction and assessment according to students' feedback.) นําผลการทวนสอบผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนการสอนเพื่อมาปรับปรุงการเรียนการสอนในรายวิชา (Improve and develop course instruction and assessment according to the course validation result.)

1.1	1.2	2.1	2.2	2.3	3.1	3.2	4.1	4.2	4.3	5.1	5.2	5.3

1. ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบในการบริหารกิจการสาธารณะ
1.1 พัฒนานิสัยและประพฤติตนอย่างมีคุณธรรมจริยธรรมและด้วยความรับผิดชอบทั้งในส่วนตนและส่วนรวม
1.2 สามารถปรับวิถีชีวิตในความขัดแย้งทางค่านิยมและจัดการปัญหาทางคุณธรรมจริยธรรมโดยใช้ ดุลยพินิจ ทางค่านิยมพื้นฐานและความรู้สึกของผู้อื่น

2. ผลการเรียนรู้ด้านความรู้ทางรัฐประศาสนศาสตร์
2.1 มีความรู้ ความเข้าใจในหลักการของแนวคิดและทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์
2.2 มีความรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติ กฎระเบียบและข้อบังคับที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ในสาขาวิชา รัฐประศาสนศาสตร์
2.3 สามารถวิเคราะห์วิจัยเพื่อค้นหาแนวทางการแก้ปัญหาและการต่อยอดองค์ความรู้ในสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์

3. ผลการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญาและการวิเคราะห์เชิงวิพากษ์
3.1 สามารถค้นหาข้อเท็จจริงและทำความเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับรัฐประศาสนศาสตร์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย
3.2 สามารถศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์หรือสภาพปัญหาที่ซับซ้อน โดยใช้ความรู้แนวคิดและทฤษฎี ทางรัฐประศาสนศาสตร์เพื่อเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขได้อย่างสร้างสรรค์

4. ผลการเรียนรู้ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ
4.1 มีความรับผิดชอบในการพัฒนาตนเองและแสดงออกซึ่งภาวะผู้นำและสมาชิกที่ดีของกลุ่ม
4.2 สามารถปรับตัวได้ในสังคมที่มีความหลากหลายรับฟังความเห็นที่แตกต่างและแสดงความเห็นที่เกี่ยวข้อง กับประเด็นทางรัฐประศาสนศาสตร์ได้อย่างสร้างสรรค์
4.3 มีความคิดริเริ่มในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมกับพื้นฐานของตนเองและบริบทของกลุ่ม

5. ผลการเรียนรู้ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสำหรับงานทางรัฐประศาสน-ศาสตร์
5.1 มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้และการนำเสนอข้อมูล ทางรัฐประศาสนศาสตร์ในรูปแบบที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสมกับกลุ่มบุคคลต่างๆ
5.2 สามารถใช้เครื่องมือทางสถิติขั้นพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับประเด็นปัญหาการวิจัยทางรัฐประศาสนศาสตร์
5.3 สามารถสื่อสารประเด็นทางรัฐประศาสนศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ